ข่าวเด่น “ประเสริฐ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผย เพื่อไทย จ่อคุย ก้าวหน้า หาบทสรุปศึกแย่งตำแหน่งประธานสภา บอก อาทิตย์หน้า เชื่อ มีทางออก ขอสื่อฯ อย่าพึ่งจะมองไปไกล ถึงกับขนาดฟรีโหวต ย้ำจุดยืนพรรค ยินดีหนุน “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี
ช่วงวันที่ 27 พ.ค. 66 นายยอดเยี่ยม จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พื้นที่) เอ๋ยถึงความคืบหน้าการเจรจาตําแหน่งประธานสภา ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวหน้า ว่า จะมีการปรึกษาหารือกันในอาทิตย์หน้า โดยตัวแทนจากอีกทั้ง 2 พรรคจะเสวนากันเพื่อหาบทสรุปในเรื่องดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ผู้รายงานข่าวถามว่า ถ้าเกิดกระทั่งสุดทางแล้วยังไม่ลงตัว จะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตกันหรือไม่ นายวิเศษ บอกว่า ไม่อยากที่จะให้มองดูไปถึงขั้นนั้น ขอให้คุยกันก่อน เป็นทางที่ยอดเยี่ยม เชื่อว่าประเด็นนี้มีทางออก อย่าดูไปไกลถึงจุดที่ว่า จำเป็นต้องแสดงพลังใส่กัน
เมื่อถามคำถามว่า จะกระทบการทํางานด้วยกันในอนาคตหรือไม่ นายดีที่สุด บอกว่า ไม่กระทบ พวกเรายินดีช่วยเหลือนายพิธา ลิ้มรุ่งโรจน์รัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวหน้า ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคก้าวไกล อยู่แล้ว จุดยืนนี้ไม่เปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามหากรณีที่มีนักวิชาการเสนอแก้ปัญหา ด้วยการให้คนจากพรรคที่ 3 ดํารงตําแหน่งประธานที่ประชุมฯ นายยอดเยี่ยม กล่าวว่า ตนไม่มีความมองเห็นในเรื่องนี้ เป็นความมองเห็นของนักวิชาการ แต่สิ่งสำคัญหมายถึงพรรค เพื่อไทยและก็พรรค ก้าวหน้า จะต้องตกลงกันให้ได้ เพื่อหาบทสรุปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจะแย่ลงกว่าเดิม
วันที่ 27 พฤษภาคม 66 นายสมชาย แสวงการ วุฒิสมาชิก โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว สมชาย แสวงการ มีใจความว่า #คิดมากมากมาย เปิดสัมมนาร่วมสภานิติบัญญัติยุคหน้า ดูกรยชื่อ ว่าที่ประธานสภาที่พรรคกร้าว เสนอไร้ความสามารถ ไม่มีคุณภาพ ไม่ขอเรียกท่านประธานสภาที่ยกย่องแน่นอน #กระดากปาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อไปดูโพสต์ฯ นายสมชาย โพสต์เฟซฯ ไว้ก่อนหน้า พบว่ามีข้อความ มองเห็นคนจากพรรคการเมืองสัมภาษณ์และก็ออกสื่อเคลมรายวันว่า มีส.ว.หนุนแล้วเท่านั้นเท่านี้ อ้างสื่อในกลุ่มก็กล่าวถึงว่า มีมากเพิ่มขึ้นทุกๆวันมากถึง 19-20 คน บ้าง กำลังพูดจาบ้าง อ้างรวมทั้งเคลมว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 20-40 คน นั้น ขอบอกในฐานะคนภายในส.ว. ว่าตรวจตราแล้วรวมทั้งยืนยันว่า ไม่จริงครับ
เพราะว่าตรวจดูแล้วมีสมาชิกวุฒิสภาป้ายประกาศตัวบอกชื่อว่า จะเลือกนายพิธา เป็นนายกฯ โดยอาจไม่ตรึกตรองคนอื่นนั้น ในช่วงเวลานี้แค่เพียง 5-6 คน เพียงแค่นั้น
เมื่อสำรวจวุฒิสมาชิกที่ทุกท่านล้วนมีวุฒิภาวะ ผู้คนจำนวนมากแสดงเจตนารมณ์ แต่ส่วนมากไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไรก็แล้วแต่ซึ่งต้องการแบ่งเป็นหลายกลุ่ม พอสรุปได้ดังนี้
1) กลุ่มที่รับพิจารณาว่าจะโหวตตามเสียงข้างมาก ข้อสรุปยังมีเวลาอีกราว 2 เดือน จึงจะถึงวันโหวตและเห็นของจริงว่า มีการเสนอชื่อรวมทั้งพรรคร่วม แข่งกันหรือเปล่า ด้วยเหตุนี้ จึงไม่บางทีอาจให้เคลมว่า ส.ว.กลุ่มนี้ท่านตกลงใจโหวตเลือกนายกฯ แล้ว
2) กลุ่มที่มีเงื่อนไขไม่อยากที่จะให้ปรับแก้มาตรา 112 และรัฐธรรมนูญหมวด 1-2 ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นแว่นแคว้นไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งไม่ได้ หมวดกษัตริย์แล้วก็มาตราที่เกี่ยวโยง
3) กลุ่ม สว. ที่ปิดสวิตช์ตัวเอง ด้วยการโหวตงดออกเสียง
4) กลุ่ม สมาชิกวุฒิสภา โดยมาก คาดว่า อาจจะสูงถึงปริมาณร้อยละ 80 ยังคงติดตามข่าว พิจารณาข้อมูล องค์ประกอบต่างๆโดยมีมาตรฐานไตร่ตรองคล้ายกันหรือแตกต่างกันไป เช่น คุณสมบัติ ความประพฤติปฏิบัติ ความประพฤติทางศีลธรรม ของบุคคลที่เสนอตัวเป็นนายกฯ แนวนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ทิศทางการนำพาประเทศรุ่งเรือง สงบรวมทั้งมีความยั่งยืนในชาติ หลักการการต่างประเทศ และก็อื่นๆซึ่งเชื่อมั่นได้ว่า สมาชิกวุฒิสภาทุกคนพิเคราะห์อย่างมีวุฒิภาวะและก็มีวิจารณญาณในวันโหวตแน่นอนนะครับ
ย้ำว่า ขอให้พรรคการเมืองต่างๆเดินตามครรลองระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อย่าทำแค่ลมปาก ดูไปดีไปเคลมไป
คอยขั้นตอนที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เป็น
– รอคอยรับสมัครรองส.ส.จากกกต.ใน 60 วัน
– เมืองพิธีการเปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ
– เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะครองตำแหน่งประธานรัฐสภา
– ประธานรัฐสภานัดหมายประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯ
มอง Timeline ทั้งผองยังมีเวลาให้พินิจพิเคราะห์แน่ๆ
อย่าบีบคั้นรวบรัดกัน
บอกตามตรงว่า ไม่ใช่วัฒนธรรมการเมืองที่ดีขอรับ
เพื่อไทย “ณัฐวุฒิ” ชี้ อย่าประมาท เหตุ “บิ๊กตู่” ยังไม่เคยประกาศสารภาพปราชัย
“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ชี้ อย่าประมาท มีความรู้สึกว่าการต่อสู้จบแล้ว เหตุ “บิ๊กตู่” ยังไม่เคยประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ส่วนเรื่องชิงประธานที่ประชุม ปล่อยวงเจรจากันไป เลิกได้แน่ ขณะโผ คณะรัฐมนตรี เชื่อ พอดี เนื่องจากว่า สื่อเสนอข่าวสาร ก็ไม่เห็นมีพรรคไหนออกมาไม่ยอมรับ
วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เพื่อเตือน 8 พรรคการเมืองตั้งรัฐบาล ยัน อย่าประมาทไป ระหว่างที่กำลังพูดจา อย่าคิดว่าการต่อสู้จบแล้ว เพราะ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคยกล่าวว่า ยอมรับความพ่ายแพ้
นอกจากนั้น นายณัฐวุฒิ ยังกำหนดอีกว่า องคาพยพทั้งหลายแหล่ยังครบ เขาไม่จบกล้วยๆแน่ พร้อมพูดเรื่องกล้วย กล่าวว่า ข้างพรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาล มีเสียง 312 เสียง ยังอยากเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ช่วยเหลือ 64 เสียง ถึงจะตั้งนายกฯได้
ส่วนข้างขั้วรัฐบาลเดิม รวมกันมีเสียง 188 เสียง เขายังปรารถนาส.ส. (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) อีก 62 เสียง เพื่อมีเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาล่างเป็นสภาผู้แทนราษฎร
ของจริงกับของที่ไม่ใช่ของจริงมีปนกันอยู่ทุกพรรค แอบซื้อแอบขาย แล้วเสนอชื่อ พล.อำเภอประยุทธ์ ไปโหวตแข่งวัดใจกันในที่ประชุม เรื่องที่มีความรู้สึกว่าง่ายจะเปลี่ยนเป็นยาก สำนวนกำลังภายในว่า “วิกาลนานฝันยุ่งเหยิง” การบ้านการเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าประมาทเผด็จการ
ส่วนเรื่องการตกลงตำแหน่งในรัฐบาลนั้น พื้นฐานมั่นใจว่าลงตัว ด้วยเหตุว่า สื่อเสนอข่าวก็มองไม่เห็นมีพรรคไหนออกมาไม่ยอมรับ
สำหรับเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร อยากให้ปล่อยให้วงพูดจาไปตกลงกัน เห็นว่า รอบนี้ไม่เสมือนคราวก่อนๆที่พรรคอันดับ 1 กับ 2 อยู่คนละขั้ว แต่รอบนี้อยู่ขั้วเดียวกัน เชื่อว่าหาข้อยุติกันได้
“คุณลุงป้อม” จ่อไปจังหวัดกำแพงเพชรคราวแรกข้างหลังออกเสียง พลังประชาชนรัฐได้ ส.ส.ชูจังหวัด
วันพรุ่ง “พล.อ.ประวิตร” เตรียมตรวจงานจังหวัดกำแพงเพชร ถือว่าเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกข้างหลังลงคะแนน ซ้ำพรรคพลังประชากรรัฐ เหมาเก้าอี้ ส.ส.กำแพงเพชร ทั้งยัง 4 เขต
วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ผู้รายงานข่าวรายงานว่า พล.อำเภอประวิตร วงษ์กาญจน์ รองนายกรัฐมนตรี จัดเตรียมลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อตรวจงานในวันพรุ่ง (28 พฤษภาคม 2566) โดยมี นายสงบสุข พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมภาควิชาเพื่อติดตามการจัดการจัดแจงน้ำที่แก้มลิงหนองป่าขวัญ ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พร้อมมอบหลักการและก็พบปะสามัญชน
ทั้งนี้ กำหนดการของ พล.อำเภอประวิตร ในวันเดียวกัน จะเดินทางไปยังสถานที่เรียนนายพรานกระต่ายพิทยาคม ตำบลถ้ำกระต่ายทอง อำเภอนายพรานกระต่าย เพื่อร่วมพิธีมอบสมุดประจำตัวจัดสรรที่ดินในการเลี้ยงชีพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ชายป่าเขียว ชายเขาสว่าง แล้วก็ป่าลำคลองห้วยทราย ให้พสกนิกรตามนโยบายของรัฐบาล ในลักษณะแปลงรวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมด้วยมอบแผนการการจัดที่ดินทำมาหากินให้ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อสร้างอาชีพที่มั่นอาจ ลดปัญหาการล่วงล้ำป่า
สำหรับจังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นจังหวัดแรกที่ พล.อำเภอประวิตร กลับมาลงพื้นที่ข้างหลังการเลือกตั้ง และก็พรรคพลังประชาชนรัฐได้รับคะแนนเสียงสำหรับเพื่อการลงคะแนน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยกจังหวัด โดยมี นายวราเทวดา รัตนากร ในฐานะผู้ตัดสินที่มีความสำคัญในการรบพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งหัวหน้าทีมลงคะแนน จ.จังหวัดกำแพงเพชร นำว่าที่ ส.ส.กำแพงเพชร ร่วมต้อนรับ โดย 4 ว่าที่ ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชร มี นายไผ่ ลิกค์, นายเพชรภูเขามิ อาภรณ์รัตน์, นายอนันต์ ผลอำนวย และก็นายปริญญา เวลาหร่าย.
“ชัชชาติ” เย้าแหย่ “พล.อ.นิพัทธ์” แม้จริงดีแล้ว ข่าวซุบซิบ ได้เป็น ว่าที่ รมว.กระทรวงกลาโหม เพื่อไทย
“ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร เย้าแหย่ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ข่าวสด อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า มีข่าวโคมลอย อาจได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกลาโหม หากจริงก็ดี ข้างหลังลงตรวจงาน “ข้าหลวงประจำจังหวัด กทม. เดินทาง เขตพญาไท” ร่วมกัน วันนี้
วันที่ 27 พ.ค. 2566 นายชัชชาติ สิทธิจำพวก ผู้ว่าจังหวัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าราชการจังหวัด กรุงเทพมหานคร เดินทาง เขตพญาไท” เพื่อติดตามความเจริญการดำเนินงานตามแผนการ ผลที่ได้รับจากการดำเนินงานตาม Application Traffy Fondue รวมทั้งปัญหาแล้วก็ปัญหาต่อการดำเนินการของสำนักงานเขต
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยคราวหลังการสัมมนา ว่า วันนี้พวกเรากลับมาสัญจรอีกรอบ ภายหลังที่ไม่ได้เดินทางมาในช่วงออกเสียง ซึ่งเขตพญาไทเป็นเขตลำดับที่ 28 และก็กิจกรรมผู้ว่าฯ เดินทางเป็นเลิศใน 216 แนวนโยบาย เนื่องจากเราอยากได้ลงพื้นที่เพื่อรู้เรื่องปัญหาที่แท้จริงของแต่ละเขต ในส่วนของเขตพญาไทพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีราษฎรอยู่ราวๆ 60,000 คน ภาวะพื้นที่โอบล้อมด้วยคลองสามเสน คลองบางซื่อ ถนนสายหลักในพื้นที่ เป็นต้นว่า ถนนหนทางพหลโยธิน ถนนหนทางวิภาวดี รวมทั้งถนนหนทางพระราม 6 อื่นๆอีกมากมาย
ปัญหาหลักๆในพื้นที่เรื่องจุดน้ำหลากมี 2 จุด คือ วิภาวดี ซึ่งได้รับการปรับปรุงแล้วรอบๆหน้ากรมทหารเป็นเขตความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ซึ่งสำนักการระบายน้ำได้เข้าไปดูแลโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีรอบๆถนนสุทธิสารบางจุด จากการประเมินเหตุการณ์โดยสำนักการระบายน้ำพบว่าดีขึ้น การขุดลอกคูคลองระบายน้ำสามารถดำเนินการไปได้กว่า 3,000 กิโล ซึ่งในปีนี้คงไม่มีปัญหาประเด็นการระบายน้ำ แต่ปัญหาที่ยังคงมีอยู่เป็นกระแสไฟฟ้าส่องสว่าง จากทั้งผอง 2,021 ดวง ขณะนี้เหลือที่ยังจะต้องแก้ไขอีกเพียง 60 ดวง ซึ่งจะเร่งประสานการไฟฟ้านครหลวงปรับแต่งด้านในเดือนนี้